ไปกัน “เลย” แบบ Slow Life เที่ยวได้ ไม่ต้องรอหน้าหนาว

ใครว่า “จังหวัดเลย” จะเที่ยวได้แค่เพียงในช่วงหน้าหนาว ขอเถียงเลยค่ะ ว่าไม่จริง เพราะจังหวัดเลย เป็นจังหวัดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก มีความผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมอย่างลงตัว คุณสามารถมาสัมผัสได้ทุกฤดู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบทิ้งทุกสิ่งอย่าง แล้วมา Slow Life อย่างจริงจัง

หลายพื้นที่ของจังหวัดเลย ยังคงความเป็นพื้นถิ่นแท้ ๆ แต่ดั้งเดิม ผสมผสานกับหลายชนชาติแบบวัฒนธรรมไทย-ลาว แต่ที่นี่เรียกว่าไทเลย ธรรมชาติก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์สีเขียวสบายตาตลอดเส้นทาง ผู้คนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีน้ำใจ ให้คำแนะนำได้ดีเยี่ยม ส่งมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

เรามาดูกันค่ะว่า “เลย” จะเป็นเมืองที่ยังน่าเที่ยวอยู่ จริงหรือไม่? บอกเลยว่าเห็นเป็นเมืองเงียบ ๆ อย่างนี้ แต่ไม่ได้มีแค่เพียงภูกระดึงเท่านั้นที่เป็นที่รู้จัก แต่ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ อีกเพียบ ที่รอให้คุณได้ไปสัมผัสอีกเยอะมาก เที่ยวไม่หมดไม่ต้องกลับ! มาดูกันเลยค่ะ ว่ามีที่ไหนที่เราจะแนะนำกันบ้าง

• ตัวเมืองเลย

  เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ฯ >> เดินชมสวนธารณะกลางเมือง >> ชิมข้าวเปียกปากหมา >> ขึ้นภูบ่อบิด

หากคุณได้ไปสัมผัส คุณจะรู้ว่า อำเภอเมืองของจังหวัดเลยแห่งนี้ไม่เหมือนที่อื่น เพราะแลดูเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมืองหลายสาย แถมยังได้รับรางวัลเมืองที่สะอาดที่สุดหลายปีซ้อนอีกด้วย มาดูกันค่ะว่าในตัวเมืองเลย มีที่น่าท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง

1. พิพิธภัณฑ์จังหวัดเลย และเดินเล่นในสวนธารณะประจำจังหวัด

ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ใด แนะนำให้คุณควรทำความเข้าใจกับประวัติและวัฒนธรรมท้องถิ่นของที่แห่งนั้นก่อน เพื่อให้การวางแผนการท่องเที่ยวง่ายขึ้น ไหน ๆ ก็มาเช็คอินถึงถิ่นเมืองเลยทั้งที ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับความเป็นมาเป็นไปของจังหวัดเขาก่อน น่าเสียดายที่หลาย ๆ คนมองข้ามสถานที่ที่ให้ความรู้ต่าง ๆ เช่นพิพิธภัณฑ์ไป ลองสละเวลาสักนิด แล้วคุณจะเข้าใจถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของถิ่นที่คุณไปเยือนมากขึ้น

          พิพิธภัณฑ์จังหวัดเลยแห่งนี้ ตั้งอยู่กลางตัวเมืองในที่ทำการเทศบาลอำเภอเมืองเลย สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ไม่จ่ายค่าเข้าแต่อย่างใด

ภายในพิพิธภัณฑ์เมืองเลยแห่งนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติเมืองเลย บอกถึงขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ แต่ละอำเภอ อย่างละเอียดและน่าสนใจ บอกถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ และมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ คุณจะได้วางแผนเที่ยวได้อย่างสบายใจ

ออกมาจากพิพิธภัณฑ์ เดินข้ามฝั่งถนนมาคุณจะได้พบกับสวนสาธารณะ (สวนสมเด็จ) แห่งใหญ่ของเมืองเลย กับสะพานข้ามแม่น้ำที่มีความสวยงาม ลองมาเช็คอินเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณนี้ รับรองว่าภาพออกมาสวย ชิค ๆ คูล ๆ ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอนค่ะ

2. ข้าวเปียกปากหมา

ของกินขึ้นชื่อของจังหวัดเลยที่อร่อย เอาใจคนรักเส้น คงไม่พ้นข้าวเปียก ลักษณะของข้าวเปียกจะคล้ายกับก๋วยจั๊บญวน น้ำใส ใส่ไข่ ใส่หมูยอ ใส่หอมเจียว และร้านที่ขึ้นชื่อในจังหวัดเลยก็คือ “ร้านข้าวเปียกปากหมา” ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเลย เลยค่ะ ตั้ง GPS ไปได้หาไม่ยาก อร่อย ชามใหญ่ ทานได้อิ่มท้อง แถมราคาก็ถูกมาก เริ่มต้นเพียงถ้วยละ 30 บาท เท่านั้น ไปแล้วแนะนำให้ไปลองค่ะ

3. ภูบ่อบิด

เลยเป็นอีกหนี่งจังหวัดที่มีภูเขาให้ปีนขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์กลางเมือง แถมสวยมาก หากไปไม่ทันช่วงเช้า แนะนำให้ไปในช่วงเย็นสักประมาณ 4 โมงเย็นกำลังดี เพราะอากาศไม่ร้อนมาก แดดกำลังร่มลมกำลังตกพอดิบพอดี

การที่จะขึ้นไปภูบ่อบิดคุณจะต้องจอดรถและเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 650 เมตร (ก็ต้องฟิตร่างกายไปพอสมควร) ทางขึ้นจะเป็นบันไดปูนสลับกับบันไดเหล็กที่ทางอุทยานได้ทำไว้ให้กับนักท่องเที่ยว มีราวจับตลอดทาง เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบนะคะ เพราะทางจะชันนิดนึงเดี๋ยวจะหายใจไม่ทัน

ใครที่กลัวเหนื่อยไม่ต้องห่วงค่ะ หากคุณเดินขึ้นไปถึง 450 เมตรจะมีจุดพักนักท่องเที่ยว เป็นถ้ำพระ ที่มีน้ำดื่มคอยบริการและนั่งพักได้ หยิบหรือดื่มน้ำได้ฟรี และแนะนำสวมรองเท้าที่รัดกุม เช่นรองเท้าผ้าใบจะทำให้การเดินขึ้นไปคล่องตัวและสะดวกขึ้น

เมื่อเดินมาถึงจุดชมวิวคุณจะต้องร้องว้าว! กับวิวใจกลางเมืองที่คุณเห็นตรงหน้า กับลมโชย ๆ ที่ลอยมาปะทะหน้าจะทำให้คุณหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ใครมาถึง อ.เมืองเลย แล้วไม่ได้มาขึ้นภูนี้ คงน่าเสียดายแย่เลยค่ะ

• อำเภอเชียงคาน

  เดินเล่นกินข้าวจี๋และหอยเสียบ ณ ถนนคนเดินเชียงคาน >> ตักบาตรข้าวเหนียว >> ปั่นจักรยานริมโขง >> แวะสักการะวัดสำคัญของเชียงคาน >> ขึ้นภูทอก >> สักการะพระพุทธบาทภูควายเงิน >> ชิมตำด๊องแด๊ง >> แวะหมู่บ้านไทยดำ

          อำเภอเชียงคานมาแล้วไม่ขึ้นคาน เพราะไม่เกี่ยวกัน เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ติดฝั่งแม่น้ำโขง บรรยากาศดีมากเว่อร์ บ้านเรือนยังมีสถาปัตยกรรมโบราณ มีวัดเก่าแก่สำคัญ ๆ ให้แวะสักการะเพียบ ที่พักก็เยอะแยะแนวเรียบง่าย มีทั้ง Hostel และ Home stay ลอง Search Google และเลือกที่ถูกใจกันได้เลย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีที่จอดรถให้นะคะ ต้องนำไปจอดในบริเวณวัดศรีคุณเมือง ซึ่งอยู่ในย่านเดียวกัน ไม่มีค่าใช้จ่าย

1. ถนนคนเดินเชียงคาน

โอ้ย! หาที่พักได้แล้วก็เตรียมหาของกินกันค่ะ ที่นี่เป็นถนนคนเดินที่น่าเดินมาก ๆ ค่ะคู๊ณ เปิดบริการ ศุกร์ – อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาอาจจะมีเปิดแค่เพียงบางร้านเท่านั้น

พ่อค้าแม่ค้าชาวท้องถิ่นแถบนี้น่ารักค่ะ ขอคอนเฟิร์ม บ้านเรือนก็เป็นแนววินเทจของกินก็เพียบราคาไม่แพง แต่ที่ฮิตซื้อใส่ท้องกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้าวจี่และพวกหอยเสียบ กุ้งเสียบ เดินไปกินไปยังได้เลยค่ะ

ร้านค้าที่นี่ก็มีหลากหลาย มีทั้งร้านเสื้อผ้า ของแฮนด์เมด ของตกแต่ง ของที่ระลึกพื้นเมือง หรือแม้แต่ร้านนวดที่ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “ร้านยองเส้น” ก็น่ารักไปอีกแบบ ใครยังติดใจข้าวเปียก ที่นี่ก็มีร้านอร่อยเช่นกันค่ะ เดินกันได้ยาว ๆ กินกันให้อิ่มไปเลยค่ะ

2. ตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้า

วัฒนธรรมของที่นี่จะมีการใส่บาตรด้วยข้าวเหนียว ที่พักส่วนใหญ่ก็จะมีให้ลูกค้าสั่งจองของใส่บาตรให้ล่วงหน้า ซึ่งจะจัดให้เป็นชุด มีทั้งข้าวเหนียวใส่กระติ๊บไว้ให้ ขนมนมเนย อาหารแห้ง รวมถึงน้ำและดอกไม้

อยากใส่บาตรก็ต้องตื่นเช้ากันสักนิด ลงมารอที่หน้าที่พักของคุณได้เลยค่ะ เพราะเขาเริ่มกันตั้งแต่หกโมงเช้า จะลงมาแบบหน้าสดก็ได้ไม่มีใครว่า

ใครที่ลืมสั่งจองก็ลองเล็ง ๆ พ่อค้าแม่ค้าที่นำอาหารใส่ท้ายรถมอเตอร์ไซต์ มาขายยามเช้าได้เช่นกันค่ะ เป็นความรู้สึกน่ารัก ๆ อบอุ่นยามเช้าไปอีกแบบ ไปเชียงคานถึงที่ ไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้นะคะ

3. ปั่นจักรยานริมโขงและแวะสักการะวัดเก่าแก่สำคัญของชาวเชียงคาน

กิจกรรมยามเช้าแบบคลาสสิคหลังจากใส่บาตรที่นิยมทำกันคือการปั่นจักรยาน ชมวิวริมแม่น้ำโขง รับบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่นสูดเข้าไปให้ฉ่ำปอด แวะสักการะวัดท่าคก ที่มีอุโบสถอายุยาวนานกว่า 200 ปี เป็นศิลปะแบบล้านช้าง และวัดศรีคุณเมืองที่มีความเก่าแก่ สวยงามเป็นอย่างมาก

4. ภูทอก

นั่งรถสองแถวขึ้นชมวิวสวย ๆ ของภูทอกกันค่ะ มาเชียงคานแล้วต้องไป ที่นี่จะมีค่าบริการที่จอดรถเล็กคันละ 20 บาท ส่วนค่ารถสองแถวคนละ 25 บาท (จ่ายครั้งเดียว) จะเป็นรถสองแถวบริการของน้า ๆ ลุง ๆ ชาวบ้านแถวนั้น ที่นำคุณขึ้นไปชมวิว ณ ภูทอก เนื่องจากทางค่อนข้างชันและหักศอก การขับรถขึ้นไปเองแบบไม่ชินทางจึงอันตรายมาก

เมื่อขึ้นไปแล้ว คุณจะต้องตกตะลึงพรึงเพริดกับวิวของภูแห่งนี้ มองเห็นได้ทั้งแม่น้ำโขง สลับกับภูเขาต่าง ๆ หากไม่ได้ไปในช่วงหน้าหนาวก็สวยไปอีกแบบ เพราะจะเห็นบรรยากาศด้านล่างได้อย่างชัดเจน เดินเล่นถ่ายรูปได้นานจนกว่าจะอยากลง เพราะรถสองแถวจะมีขึ้นมาตลอด ขาลงว่างคันไหนก็ขึ้นได้เลยค่ะ

5. พระพุทธบาทภูควายเงิน

วัดนี้ เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรอยพระพุทธบาทให้สักการะตั้งอยู่บนพระอุโบสถบนเขาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีประวัติความเป็นมายาวนาน ใครที่มาเยือนวัดนี้ อย่าลืมตั้งจิตอธิษฐานแล้วเรียงซ้อนหินนะคะ เพราะที่นี่เค้าเชื่อกันว่าหากสามารถวางหินซ้อนกันได้โดยที่ไม่ล้ม คำอธิษฐานของคุณจะสำเร็จค่ะ

6. ชิมตำด๊องแด๊ง

ส้มตำที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเลย ก็นี่เลยค่ะ “ตำด้องแด๊ง” ณ ร้านตำด๊องแด๊ง ณ เชียงคาน ชื่อน่ารัก โดยใช้เส้นที่มีลักษณะเหมือนเส้นลอดช่องสีขาว ผสมเข้ามาด้วยกัน รสชาติดี กินแล้วรู้สึกกรึบ ๆ แถมราคาก็ไม่แพง แนะนำค่ะ

7. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ

สัมผัสหมู่บ้านชาวไทดำ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นของแท้ ระหว่างเส้นทางมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ คุณจะสัมผัสได้กับความ Local วิวทุ่งนาสลับกับภูเขาอันเขียวชอุ่ม อย่างแท้จริง

จุดแวะมี 2 ที่ คือหมู่บ้านแบบจำลอง (เป็นลานกิจกรรม) ซึ่งจะถึงก่อนด้านซ้ายมือ สามารถเข้าไปถ่ายภาพ หรือลองแต่งกายแบบชาวบ้านไทดำได้

แต่หากต้องการอุดหนุนผ้าฝ้ายฝีมือชาวบ้านของแท้ ให้ขับเลยไปอีกหน่อย จะเห็นป้ายสีดำขนาดใหญ่อยู่ทางด้านขวามือ เดินเข้าไปจะเห็นชาวบ้านไทดำนั่งทอผ้าแบบสด ๆ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบน่าประทับใจ ทักทายและพูดคุยบอกเล่าแบบเป็นกันเอง จำหน่ายเสื้อผ้าและสินค้าแบบทอมือในราคาไม่แพง แวะอุดหนุนกันได้ค่ะ

ใครที่เป็นคอกาแฟ มีร้านกาแฟสดจำหน่ายด้วยนะคะ

• อำเภอท่าลี่ สักการะพระธาตุสัจจะ

เส้นทางจากอำเภอเมืองเลยมายังอำเภอท่าลี่ จะผ่านถนนที่มีชุมชนของหมู่บ้านชาวไทพวน ที่ยังคงความเป็นท้องถิ่นอย่างมาก แวะถ่ายภาพกับสะพานกลางข้ามแม่น้ำเลยได้ เมื่อถึงอำเภอท่าลี่สามารถแวะสักการะพระธาตุที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือพระธาตุสัจจะ ภายในมีพระแก้วมรกตสามฤดู สีเขียวหยกประดิษฐานอยู่ สวยงามเกินบรรยายจริง ๆ ค่ะ

• อำเภอภูเรือ

  ชมวิวยอดภูเรือ >> แวะวัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง >> สักการะวัดป่าห้วยลาด

1. ยอดภูเรือ

มา “เลย” ทั้งทีต้องแวะภูเรือให้ได้ มีค่าเข้าคนละ 40 บาท และรถยนต์ 30 บาท ค่าบริการรถสองแถวคนละ 20 บาท (ขึ้นและลง) นอกจากยอดภูเรือจะสวยสมคำร่ำลือแล้ว คนที่ชอบถ่ายภาพจะต้องประทับใจกับสวนสนที่มีความสวยงาม ประหนึ่งไปต่างประเทศเลยทีเดียว

2. วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง หรือวัดพระกริ่งมิ่งเมือง

วัดนี้เป็นวัดไม้สักทั้งหลัง (ทางขึ้นเดียวกับภูเรือ) หากไม่ได้แวะคงเสียใจแย่ เข้าไปแล้วรู้สึกได้ถึงความเย็นสบาย สวยงามจนบรรยายไม่ถูกเลยทีเดียวค่ะ

3. วัดป่าห้วยลาด

เป็นวัดที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน มีประติมากรรมแบบเมืองบาดาล ละเลงสีสันแบบศิลปะร่วมสมัย มีโบสถ์ที่สวยงามตั้งอยู่บนเนินเขา ภายในมีหลวงพ่อขาวองค์ใหญ่งดงาม ให้แวะสักการะ เป็นอีกวัดที่งดงามค่ะ

• อำเภอด่านซ้าย

  สักการะพระธาตุศรีสองรัก >> แวะวัดเนรมิตวิปัสสนา >> ชมพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนบ้านโพนชัย

ใครอยากรู้เรื่องราวของผีตาโขน แนะนำให้มาเช็คอินที่อำเภอด่านซ้ายแห่งนี้เลยค่ะ

1. พระธาตุศรีสองรัก

มาถึงจังหวัดเลยต้องมาสักการะพระธาตุศรีสองรัก ย้ำนะคะว่า ต้องมา! เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเลย

แต่มีข้อควรระวัง ว่าหากมาที่นี่ “ห้าม! แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีแดง” นะคะ เพราะเชื่อว่า สีแดงคือสีของเลือด ซึ่งหมายถึงการรบราฆ่าฟันกัน นั่นเองค่ะ

2. วัดเนรมิตวิปัสสนา

อีกหนึ่งวัดสวย ร่มเย็นและสงบ สวยสะดุดตาตั้งแต่ซุ้มประตูกันเลยทีเดียว กับพระอุโบสถที่ตกแต่งบานหน้าต่างลงลายฉลุสีทองประณีตทำจากศิลาแลงทั้งหลังอย่างวิจิตร อยู่ใกล้กับวัดพระธาตุศรีสองรักแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้นค่ะ

3. พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ณ วัดโพนชัย

มาเลยไม่รู้จักผีตาโขนคงเชยแหลก ที่นี่จะทำให้คุณรู้ถึงที่มาที่ไหนของหุ่นผีตาโขนที่น่ารัก ไม่ได้น่ากลัวเลยแม้แต่น้อย เป็นประเพณีงานบุญ (บุญผะเหวด) ที่ทำกับทุกปี และถือว่าเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของชาวอำเภอด่านซ้ายเลยละค่ะ

         

          ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจสัก 3-4 วัน อยู่ล่ะก็ อย่าลังเลใจเลยที่จะมาเลย เพราะมาได้เลยไม่ต้องคิดเยอะ ขอยืนยันตรงนี้ว่าจังหวัดเลย ยังคงเป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยวอยู่ การเดินทางก็สะดวกสบาย เพราะจังหวัดเลยมีสนามบิน อันเป็นสนามบินเล็ก ๆ แต่วิวสวยมากจนต้องหยุดถ่ายภาพ

          วางแผนเดินทางได้ไม่ยาก แค่จองตั๋วช่วงที่มีราคาถูกแล้วเตรียม Landing จากนั้นก็เช่ารถจากสนามบินขับเที่ยวได้ มีหลายบริษัทคอยให้บริการอยู่ด้านหน้า หากเป็นรถเก๋ง (นั่งได้ประมาณ 4-5 คน) ค่าเช่าวันละ 900 บาท (ไม่รวมน้ำมัน) ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ หากจะเก็บที่เที่ยวหลายที่ในจังหวัดให้เต็มอิ่ม ถนนหนทางก็กว้างขวาง สะดวก เดินทางไม่ยาก รู้อย่างนี้แล้วไม่ต้องรอช้าค่ะ ไปกัน…เลย!

 

ผู้เขียน : Sine Ratcharak